ส.ว.สหรัฐเอมริการ้องให้ FBI ตรวจสอบ “FaceApp แอปหน้าแก่” ของรัสเซีย เกรงละเมิดความปลอดภัยและข้อมูลส่วนตัวของประชาชน FaceApp ละเมิดความเป็นส่วนตัวหรือไม่ – วันที่ 18 ก.ค. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน Chuck Schumer ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาของสหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้ FBI และ Federal Trade Commission ดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของชาติกับ FaceApp ซึ่งเป็นแอพแก้ไขภาพใบหน้าให้ดูแก่ที่พัฒนาขึ้นในรัสเซีย
จดหมายซึ่งนาย Chuck Schumer
เขียนร้องเรียนถึงผู้อำนวยการของ FBI Christopher Wray และ Joe Simons ประธาน FTC กล่าวพาดพิงถึงแอปที่กำลังเป็นที่นิยมนี้ว่า แอปดังกล่าวเรียกร้องให้ “เข้าถึงรูปภาพและข้อมูลส่วนตัวอย่างเต็มที่และไม่สามารถย้อนกลับได้” ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการละเมิดความเป็นส่วนตัวของชาวอเมริกัน
ในจดหมาย Bob Lord หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของ DNC ยังเรียกร้องให้หัวหน้าพรรคเดรโมแคตรสั่งให้พนักงานของพวกเขาลบแอปในทันที แต่อย่างไรก็ดีไม่มีหลักฐานว่า FaceApp ให้ข้อมูลผู้ใช้แก่รัฐบาลรัสเซีย พรรคเดโมแครตได้ลงทุนอย่างหนักในการหนุนการป้องกันไซเบอร์ของพรรค หลังจากหน่วยข่าวกรองสหรัฐระบุว่ารัสเซียใช้การแฮ็คเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะสนับสนุนการรณรงค์เลือกตั้งประธานาธิบดี 2559 ของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ แต่รัสเซียได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้หลายครั้ง
FaceApp ซึ่งพัฒนาโดย Wireless Lab ซึ่งเป็น บริษัท ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กกล่าวในเว็บไซต์ว่ามีผู้ใช้งานมากกว่า 80 ล้านคน Yaroslav Goncharov ซีอีโอของ บริษัท เคยเป็นผู้บริหารที่ Yandex ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่าเป็น “Google’s Russia”
FaceApp เปิดตัวในปี 2560 และเป็นที่พูดถึงอีกครั้งในปี 2561 เมื่อพวกเขาลบตัวกรองชาติพันธุ์ออก หลังจากผู้ใช้กล่าวโทษว่าเป็นการเหยียดชาติพันธุ์
เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการตรวจสอบจากสาธารณชนในประเด็นต่าง ๆ เช่น ไม่สามารถตอบได้อย่างชัดเจนว่าแอปอัพโหลดภาพไปยังระบบคลาวด์ แทนที่จะประมวลผลภายในอุปกรณ์ของผู้ใช้
“ยังไม่ชัดเจนว่าแอปพลิเคชั่นปัญญาประดิษฐ์จะเก็บข้อมูลของผู้ใช้หรือ มั่นใจได้ว่าข้อมูลของพวกเขาจะถูกลบหลังจากการใช้งาน” Schumer กล่าวในจดหมาย
Schumer กล่าวว่าตำแหน่งที่ตั้งของแอพแก้ไขรูปภาพในรัสเซียทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับวิธีที่ FaceApp ให้บุคคลที่สามรวมถึงรัฐบาลต่างประเทศเข้าถึงข้อมูลของพลเมืองอเมริกันได้ แต่ FaceApp ได้ปฏิเสธว่าไม่มีการขายหรือแบ่งปันข้อมูลผู้ใช้กับบุคคลที่สาม
“99% ของผู้ใช้ไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้ ดังนั้นเราไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลใด ๆ ที่สามารถระบุตัวบุคคล” บริษัทกล่าวในแถลงการณ์ที่อ้างโดย TechCrunch tcrn.ch/2xTXN0m ระบุว่าภาพส่วนใหญ่จะถูกลบ จากเซิร์ฟเวอร์ภายใน 48 ชั่วโมงของวันที่อัปโหลด ในขณะที่ทีมวิจัยและพัฒนาของ บริษัท ตั้งอยู่ในรัสเซีย ระบุว่า ข้อมูลผู้ใช้จะไม่ถูกถ่ายโอนไปยังรัสเซีย
Elon Musk วางโปรเจ็ค Neuralink หวังเชื่อมต่อสมองมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ AI
Elon Musk ผู้โด่งดังจากรถยนต์ไฟฟ้า Tesla และโครงการ Space X กำลังวางแผนโปรเจ็คใหญ่ในชื่อ Neuralink โครงการที่วิจัยการเชื่อมต่อของระบบสมองและคอมพิวเตอร์ ด้วนการใส่ขั่วประจุไฟฟ้าขนาดเล็กเข้าไปในสมอง โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มต้นทดลองจริงกับมนุษย์ได้ในปี 2020
จุดประสงค์ระยะสั้นเพื่อการรักษาปัญหาที่เกิดกับสมอง และกระดูกสันหลัง หรือข้อบกพร่องต่างๆที่ติดมาตั้งแต่กำเนิด แต่จุดประสงค์ระยะยาวคือเพื่อสร้าง ดิจิตอล ซุปเปอร์อินเทเลเจนซ์ เลเยอร์ เพื่อเชื่อมต่อมนุษย์กับ AI ที่ Musk มองว่าเป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์ชาติ
Musk กล่าวว่า “เราสามารถสร้างส่วนต่อประสานระหว่างสมอง และเครื่องจักรได้ โดยการใช้รูปแบบการพึ่งพาระหว่าง AI และสมองมนุษย์ ”
หลักการคือการใช้เทคโนโลยีคล้ายจักรเย็บขนาดเล็ก เจาะเข้าไปในสมองและร้อยขึ่วประจุไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กเป็น 1 ส่วน 4 ของเส้นผมเข้ากับสมอง ซึ่งนั่นหมายความว่า ในอนาคตเราอาจจะสามารถสั่งการอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกต่างได้ด้วยการแค่ “คิดในหัว” ได้เลย ซึ่งฟังดูแล้วก็ค่อนข้างจะโอเวอร์ไปหน่อย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ทว่าการที่จะได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของรัฐบาลสหรัฐฯคงจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากพอสมวร
ด้านทางการสิงคโปร์เริ่มใช้มาตรการป้องกันโควิด-19 เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมวอนให้ประชาชนเลี่ยงออกนอกเคหสถาน โดยมาตรการป้องกันโควิดจะใช้จนไปถึงวันที่ 13 มิถุนายน
ประเทศสิงคโปร์มียอดผู้ป่วยสะสมมากกว่า 6 หมื่นราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้ว 31 ศพ
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง